กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศ พร้อมจ่ายแก้ไขเด็กนักเรียน 2,000 จำนวน 11 ล้านคน ถึงมือผู้ดูแลภายใน 7วัน ภายหลังจากงบถูกจัดแบ่งมาให้ศธ.พร้อมตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนถ้ายังไม่ได้รับเงิน
วันที่ 16 ส.ค. 2564 กระทรวงศึกษาธิการ แถลงข่าว “จุดยืนลดภาระหน้าที่ด้านการศึกษา” เพื่อแจกแจงวิถีทางสำหรับการช่วยเหลือเด็กนักเรียน ผู้ดูแล และก็อาจารย์ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรควัววิด-19 ตามมาตรการลดภาระหน้าที่ด้านการศึกษา ของ ศธ.และก็รัฐบาล
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.กระทรวงศึกษาธิการ บอกว่า จากการสัมมนาคณะรัฐมนตรี ช่วงวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 ได้มีมติเห็นชอบและก็อนุมัติงบประมาณเป็นกรณีพิเศษเพื่อช่วยเหลือแก้ไข และก็ลดผลพวงด้านการศึกษา ให้กับสถานศึกษา อาจารย์ เด็กนักเรียน และก็ผู้ดูแล โดยอนุมัติงบประมาณเป็นวงเงิน 22,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งได้ 3 หัวข้อหลักดังต่อไปนี้
1.การจ่ายเงิน “แก้ไขเด็กนักเรียน” ทุกคน ทุกขึ้นตรงต่อ คนละ 2,000 บาท โดยผู้ดูแลรับเงินเต็มจำนวน ต่อเด็กนักเรียน 1 คน โดยไม่หักรายจ่ายใดๆก็ตามเพื่อบรรเทาภาระหน้าที่รายจ่ายด้านการศึกษา ให้แก่นักเรียนนิสิตที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาขึ้นตรงต่อ ศธ.ทั้งภาครัฐและก็เอกชน รวมถึงสถานศึกษานอกขึ้นตรงต่อ ศธ. ในระดับการศึกษาพื้นฐาน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล-มัธยม6 และก็อาชีวศึกษา ซึ่งมีอยู่ราว 11 ล้านคน รวมทั้งสิ้น 22,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับภายในวันที่ 31 ส.ค.ถึงต้นเดือนกันยายนนี้
2.ลดช่องว่างการศึกษาและก็ผลพวงความรู้ที่ขาดหายไป โดยให้สถานศึกษายืดหยุ่นการใช้เงินงบประมาณตามแนวทางเรียนฟรี 15 ปี ทั้งค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียน หนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน เครื่องแบบนักเรียน และก็ค่ากิจกรรมปรับปรุงเด็กนักเรียน เพื่อสามารถใช้งบประมาณส่วนที่จำเป็นจะต้องในสถานการณ์วัววิด 19 ให้สมควร
3.ให้งบประมาณช่วยเหลือช่วยเหลือการพัฒนาการศึกษา เพื่ออาจารย์และก็พนักงานได้เอาไปใช้ในการพัฒนาแนวทางการเรียนการสอนให้มีความหลากหลาย รวมไปถึงค่าเดินทาง การดูแลเข้าถึงเด็กนักเรียน และก็ค่าอินเทอร์เน็ตสำหรับในการเรียนทางอินเตอร์เน็ต
นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่าต่อขาน ในส่วนของขั้นตอน การกระจายเงินแก้ไขของเด็กนักเรียน ศธ.จะได้รับเงินจากกระทรวงการคลัง ส่งต่อไปยังผู้ดูแลเด็กนักเรียนนิสิตทุกคนอย่างเร่งด่วน โดยตั้งเป้าหมายว่าทุกคนจะได้รับเงินภายใน 7 วัน ภายหลังที่เงินถึง ศธ. แล้วก็จะมีการตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน เพื่อช่วยเหลือผู้ดูแล ถ้ายังไม่ได้รับเงินดังกล่าวทันท่วงที
ด้านนายสุประเสริฐ จำปาทอง ปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ บอกว่า กระบวนการแบ่งเงินแก้ไขเด็กนักเรียน 22,000 ล้านบาท ทุกคน ทุกขึ้นตรงต่อ 2,000 บาทต่อคน ใกล้จะถึงมือผู้ดูแล ราว 5-7 วัน ภายหลังจากกระทรวงการคลังจัดแบ่งการโอนเงินให้หน่วยงาน โดย
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาพื้นฐาน (สพฐ.) : โอนเงินเข้าบัญชีผู้ดูแล ตั้งแต่วันที่ 5 เป็นต้นไป
สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) : ผู้ดูแลรับเงินสด ที่วิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ 5 เป็นต้นไป
สำนักงานคณะกรรมการผลักดันการศึกษาเยาวชน (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน) : ผู้ดูแลรับเงินสด ที่สถานที่เรียน หรือรับเข้าบัญชี ตั้งแต่วันที่ 7 เป็นต้นไป
กศน. ผู้ดูแลรับเงินสด จาก กศน.อำเภอ หรือ ศชช. ตั้งแต่วันที่ 7 เป็นต้นไป
นอกเหนือจากนี้ ศธ. ยังได้รับความร่วมแรงร่วมมือจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและก็สังคม (ดส.) และก็ กสทช.ที่ได้ช่วยเหลือค่าอินเทอร์เน็ตฟรีให้กับเด็กนักเรียน เป็นระยะเวลา 2 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. – 15 เดือนตุลาคม 2564 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการอนุเคราะห์เสริมเติมในภาคเรียนที่ 2 ต่อไปเพื่อเป็นการเรียนรู้ของเด็กที่สม่ำเสมอ
นายพระรัตนไตร บากบั่นศรีกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. บอกว่า กสทช.มีแนวทางช่วยเหลือประชากรและก็เด็กนักเรียน สำหรับการช่วยเหลืออินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์สำหรับในการเรียนทางอินเตอร์เน็ต เพื่อลดภาระหน้าที่รายจ่ายของผู้ดูแลที่มีลูกหลานเป็นเด็กนักเรียนในระดับชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษา ขึ้นตรงต่อ สพฐ. รวมถึงเด็กนักเรียนนิสิตขึ้นตรงต่ออาชีวศึกษา ขึ้นตรงต่อ กศน. ตลอดจนสถานศึกษาเอกชนที่รับเงินจากรัฐบาล ขึ้นตรงต่อ กทม. ขึ้นตรงต่อกระทรวงมหาดไทย ขึ้นตรงต่อ ตำรวจตระเวณชายแดน รวมถึงโรงเรียนสาธิต ที่มีการเรียนการสอนแบบออนไลน์ จำนวนกว่า 7.7 ล้านคน ในตอนระหว่างวันที่ 15 ส.ค. ถึง 15 เดือนตุลาคม 2564 (2 เดือน) โดยช่วยเหลือใน 2 แบบ เป็น
แบบที่ 1 ช่วย Top-up แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้เบอร์ที่เด็กนักเรียนใช้เรียนทางอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบเติมเงินและก็รายเดือน เดือนละ 79 บาท สามารถใช้งานแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษาการสอนได้แบบไม่จำกัด อาทิ Microsoft Teams, Google Meet, ZOOM, Cisco Meeting, WebEx และก็ Line Chat พร้อมอินเทอร์เน็ตอีก 2GB สำหรับในการใช้งานอื่นๆ
แบบที่ 2 ช่วยจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตบ้าน โดยหักจากบิลค่าบริการ เดือนละ 84 บาท (ยังไม่รวม VAT) เป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งเด็กนักเรียนสามารถเลือกรับสิทธิ์ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง และก็ยอมรับได้ 1 คนต่อ 1 สิทธิ์